สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้เราเดินทางมาถึง Tense สุดท้ายกันแล้วนะคะ
นั่นก็คือ Future Perfect Progressive ชื่ออาจจะยาวหน่อย แต่คอนเซ็ปต์การใช้ไม่ยากเลยค่ะ
Tense นี้จะมีการใช้เหมือนกับตระกูล Perfect Progressive เลยค่ะ
เพียงแต่ว่าเป็นเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เท่านั้นเองค่ะ
หัวใจสำคัญของ Perfect Progressive จะเป็นการบอกถึงเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น
และที่พิเศษกว่านั้นคือ สามารถบอกได้ว่าเหตุการณ์นั้นกำลังเกิดมานานแค่ไหนแล้ว
หรือกำลังเกิดมาตั้งเมื่อไหร่ โดยจะมี since/for ช่วยบอกเวลาค่ะ
ดังนั้นสรุปจากข้างต้นได้เลยค่ะว่า Future Perfect Progressive
ใช้พูดถึงเหตุการณ์ที่จะกำลังเกิดขึ้นในอนาคต และบอกระยะเวลาได้
เมื่อรู้หลักการใช้แล้ว เรามาต่อกันที่เรื่องโครงสร้างประโยคกันดีกว่าค่ะ
เรามาแยกโครงสร้างต่าง ๆ จากชื่อกันก่อนค่ะ
Future (will) + Perfect (have+V3) + Progressive (be+Ving)
แล้วเอามารวมกัน ก็จะได้เป็น S + will + have + been + Ving
Note: Tense นี้มักใช้ร่วมกับ by the time + S + V1(s/es) เพื่อกล่าวถึง
อีกเหตุการณ์หนึ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตด้วย คล้าย ๆ กับ Future Perfect
ซึ่งเป็นบทความก่อนหน้านี้ค่ะ เพื่อน ๆ ลองกลับไปอ่านทบทวนดูได้นะคะ
📚 Affirmative (ประโยคบอกเล่า)
S + will + have + been + Ving
Examples:
I'll have been studying for the exam for 2 hours by the time you finish work.
Tony'll have been swimming for 30 minutes by the time his coach lets him go.
📙 Negative (ประโยคปฏิเสธ)
S + won't + have + been + Ving
📚 Yes/No Question (ประโยคคำถามที่ตอบได้แค่ ใช่ และ ไม่ใช่)
Will + S + have + been + Ving?
- Yes, S + will. / No, S + won't.
📙 Information Question (ประโยคคำถามที่ต้องการข้อมูล)
Wh + will + S + have + been + Ving?
* ใช้โครงสร้างประโยคบอกเล่าในการตอบค่ะ
เพื่อน ๆ อาจจะสงสัยว่าทำไมไม่เห็นตัวอย่างประโยคปฏิเสธกับประโยคคำถามใช่ไหมคะ
ก็เพราะว่า Tense นี้จะไม่ค่อยถูกใช้ในชีวิตประจำวันนั่นเองค่ะ
เย้! ครบทั้ง 12 Tenses แล้ว ขอบคุณทุกคนที่ตามอ่านจนครบนะคะ
ทุกคนเก่งมาก ๆ ปรบมือดัง ๆ ให้ตัวเองเลยค่ะ 👏
ไว้ครั้งหน้าจะเป็นเรื่องอะไรนั้น ... รอติดตามกันนะคะ
รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ ✨
แล้วเจอกันใหม่นะคะ ดูแลสุขภาพกันด้วยค่ะ
วันนี้ไปแล้วน้าาาาาาาาาาาาาาาาา บ๊ายบาย 🌻
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น