เฮลโหลลลลลลลลลลลล (^o^)/~~~
ช่วงนี้ฟังเพลง Hello ของเจ้าแม่ Adele บ่อยมาก
ฟังแล้วก็เออนะ ความหมายดี แถมมีเรื่องมาให้เขียนด้วย หุหุ
ส่วนใครที่ยังไม่ได้ฟัง ก็ลองฟังได้เลยค่ะ
เนื้อหาของเพลงก็ประมาณว่า นางเลิกกับแฟนได้หลายปีแล้ว
แต่ก็ยังรู้สีกค้างคา อยากโทรไปขอโทษ โทรไปเคลียร์เรื่องเก่าๆ ที่จบไม่ค่อยดี
และยังอยากถามถึงสารทุกข์สุขดิบของเขาอยู่
แต่โทรไปแล้วก็เหมือนฝ่ายนั้นไม่อยู่ หรือไม่ยอมรับโทรศัพท์เลย
ท่อนที่พลอยจะหยิบมาพูดวันนี้ ก็คือท่อนฮุคเลยค่ะ ♫ ♬ ♪ ♭ ♪
Hello from the other side
I must have called a thousand times to tell you
I'm sorry, for everything that I've done
But when I call you never seem to be home
Hello from the outside
At least I can say that I've tried to tell you
I'm sorry, for breaking your heart
But it don't matter, it clearly doesn't tear you apart anymore
ในเนื้อเพลงจะใช้คำว่า sorry for เพราะว่าเป็นเรื่องที่ผ่านมาแล้ว เกิดขึ้นแล้ว
sorry for สามารถตามด้วยคำนาม และคำกริยาเติม -ing ค่ะ
เหมือนประโยคแรก ตามด้วย everything ที่เป็นได้ทั้งคำนามและคำสรรพนาม
- ขอโทษสำหรับทุกสิ่งที่ฉันได้ทำลงไป
ส่วนประโยคที่สอง ตามด้วย breaking เป็น gerund (คำกริยาเติม -ing)
- ขอโทษที่ฉันทำร้ายจิตใจของเธอ (ทำให้เธออกหัก)
ส่วนคำว่า sorry to ใช้กับเรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้น หรือเกิดขึ้นขณะนั้น
และใช้เกริ่นนำได้ด้วย หลัง sorry to ตามด้วยคำกริยารูปพื้นฐานเท่านั้นค่ะ เช่น
- I'm sorry to bother you, but do you have a few minutes?
ขอโทษที่รบกวนนะ แต่คุณพอจะมีเวลาสักหน่อยไหม?
- I'm sorry to interrupt, but could you come with me for a second?
ขอโทษที่ขัดจังหวะนะ แต่คุณพอจะมากับฉันสักแป๊บนึงได้ไหม?
* เหตุการณ์กำลังจะเกิดขึ้น จึงใช้ sorry to เป็นการเกริ่นนำก่อนค่ะ
นี่แหละค่ะเป็นข้อแตกต่างในการใช้ sorry to และ sorry for
ฟังเพลงก็ได้ความรู้นะคะ ฟังบ่อยๆ สังเกตการใช้ภาษาบ่อยๆ
ไม่นานเราก็จะเก่งขึ้นเองค่ะ (●`-∀-)b
อ้อ .. ในเนื้อเพลงข้างบนจะเห็นว่าเขาใช้ it don't ทั้งๆที่ควรจะเป็น it doesn't
ก็เพราะว่าให้มันรื่นหู ร้องเข้าและร้องทันกับดนตรีค่ะ ไม่มีอะไรมาก อิอิ
วันนี้พลอยไปก่อนนะคะ เจอกันใหม่ครั้งหน้าค่ะ จุ๊บบบบบบ ❤
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น